Facebook

เฟสบุ๊คเป็นแอปพลิเคชันที่มีโทนสีของหน้าจอเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะผู้พัฒนามองว่าอินเตอเฟสที่ประกอบด้วยโทนสีนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานได้ดีที่สุดแล้ว และหากเฟสบุ๊คสามารถเปลี่ยนธีมได้อาจจะทำให้แบรนด์ของเฟสบุ๊คดูด้อยลงไป จึงไม่ได้มีการพัฒนาธีม(Theme) เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนสีสันของหน้าจอได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของ Facebook Messenger นั้นได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ Dark mode เข้าไปแล้ว หากใครต้องการใช้ก็สามารถอัพเดทเวอร์ชั่นล่าสุดไปใช้ได้ทันที แต่ในส่วนของ Facebook Application ยังต้องรออีกสักพักเชื่อว่าหากมีผู้ใช้ต้องการใช้ธีมสีดำหรือ Dark mode theme จำนวนมากก็เป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นฟีเจอร์นี้ใน Facebook Application บนมือถือในเร็ว ๆนี้ โดยในบทความนี้จะแนะนำการทำเฟสบุ๊คสีดำที่ทำงานบนแพลตฟอร์มเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งได้มีผู้พัฒนาส่วนขยาย(Extension) facebook dark mode ขึ้นมา ทำให้หน้าจออินเตอเฟสของเฟสบุ๊คกลายเป็นสีดำทั้งหมด โดยส่วนขยายนี้สามารถติดตั้งลงบนเบราว์เซอร์ Google Chrome ได้ วิธีทำเฟสบุ๊คให้เป็นสีดำ หรือ Facebook dark mode บน Google Chrome 1. ให้เปิด Google Chrome ขึ้นมา แล้วเข้าไปที่ Chrome Extension “Dark Theme for…

ทุกวันนี้เพจเฟสบุ๊คกลายเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการสื่อสารบนโลกโซเชียล โดยเพจที่มีเนื้อหาดีก็จะมีผู้คนติดตามเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ หรือ ไลฟ์สดก็จะถูกเผยแพร่ไปยังผู้ติดตามเพจได้อย่างง่ายดาย เราจะเห็นว่าเพจเฟสบุ๊คนั้นสามารถเป็นได้ทั้งสื่อที่ใช้แชร์ข้อมูลข่าวสาร หรือจะเป็น Market Place ที่สามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของเพจก็ได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นการทำให้หน้าเพจดูน่าสนใจนั้นย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การสร้างเนื้อหาที่ดี การที่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมสามารถคลิกเข้าไปดูข้อมูลต่าง ๆของเพจได้ง่ายดายและครบถ้วนจะยิ่งช่วยสร้างความประทับใจดึงดูดใจให้กับผู้เยี่ยมชมได้ ซึ่งหนึ่งในเรื่องสำคัญนั้นก็คือการจัดการเมนูเพจเฟสบุ๊คที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีการรวบรวมข้อมูลทุกอย่างของเพจไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ การเปิด/ปิดแท็บเมนูเพจเฟสบุ๊ค 1. เข้าไปที่หน้าเพจ แล้วที่ “การตั้งค่า” จากนั้นเลือก “เทมเพลตและแท็บ” 2. โดยปกติแล้วระบบจะทำการเปิดแท็บเมนูให้ ฉะนั้นในกรณีที่เราต้องการปิดบางเมนูที่ไม่ต้องการให้คลิกที่ปุ่ม “ตั้งค่า” ของแท็บเมนูนั้น ๆ เช่น กรณีที่ต้องการเอาเมนู “งาน” ออกไม่ให้แสดงที่หน้าเพจ ให้คลิกที่ปุ่ม “ตั้งค่า” 3. จากนั้นให้เลื่อนแท็บเป็น “ปิด” การเพิ่มแท็บเมนูเพจเฟสบุ๊ค 1. เข้าไปที่หน้าเพจ แล้วที่ “การตั้งค่า” จากนั้นเลือก “เทมเพลตและแท็บ” 2. คลิกที่ปุ่ม “เพิ่มแท็บ” เพื่อเพิ่มแท็บเมนูลงในหน้าเพจเฟสบุ๊ค 3. เราสามารถที่จะเพิ่มแท็บในรูปแบบต่าง ๆได้มากมายไม่ว่าจะเป็น การไลฟ์สด กลุ่มเฟสบุ๊ค…

นับตั้งแต่โลกเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตการเข้ามาของโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพียงการเข้าถึงแหล่งข้อมูล แต่ทุกวันนี้เครือข่ายสังคมเข้ามามีบทบาทสำคัญกับคนยุคดิจิตอล เกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล การแสดงออก การมีตัวตนในโลกออนไลน์มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในเครือข่ายสังคมนั้นก็คือ เฟสบุ๊ค ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากถึงหนึ่งพันล้านคน โดยเฟสบุ๊คสามารถใช้สนทนาโต้ตอบหรือแชทได้และสามารถโพสต์ข้อความลงในไทม์ไลน์ได้ ซึ่งจะมีระดับในการโพสต์ข้อความอยู่ 3 ระดับ คือ สาธารณะ, เพื่อน และ ส่วนตัว จะเห็นว่าข้อความบนเฟสบุ๊คนั้นเราสามารถปกปิดได้ให้เห็นเฉพาะเพื่อน หรือ ไม่ให้ใครเห็นเลยนอกจากตัวเองก็ได้ แต่มีส่วนหนึ่งที่เฟสบุ๊คตั้งค่าเอาไว้แบบแสดงให้คนทั่วไปเห็นนั่นคือ รายชื่อเพื่อนเฟสบุ๊คของเรานั่นเอง หากเราไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเรามีใครเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คจะทำอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการตั้งค่าซ่อนรายชื่อเพื่อนเฟสบุ๊คทั้งแอปบนมือถือและบนเว็บไซด์ วิธีซ่อนรายชื่อเพื่อนเฟสบุ๊คบนเว็บไซด์ 1. ไปที่รายชื่อเพื่อน แล้วคลิก “เพื่อนทั้งหมด” 2. คลิกไอคอนแก้ไข(รูปดินสอ) แล้วเลือก “แก้ไขความเป็นส่วนตัว” 3. เราจะเห็นว่าการแสดงลิสต์รายชื่อเพื่อนนั้นถูกตั้งค่าดีฟอลท์เป็นแบบสาธารณะอยู่ ให้เราทำการเปลี่ยนเป็น “เฉพาะฉัน” จากนั้นคลิกปุ่ม “เรียบร้อย” วิธีซ่อนรายชื่อเพื่อนเฟสบุ๊คบนแอปมือถือ(Android) 1. ให้ทำการเปิดแอปเฟสบุ๊คขึ้นมา แล้วเข้าไปที่ “การตั้งค่าบัญชีผู้ใช้” 2. เข้าไปที่ “ความเป็นส่วนตัว” 3. หน้าจอความเป็นส่วนตัวเลื่อนไปที่หัวข้อ “วิธีที่ผู้อื่นค้นหาและติดต่อคุณ” แล้วคลิกเลือก “ใครบ้างที่สามารถเห็นรายชื่อเพื่อนของคุณได้” 4. คลิกเพิ่มเติม…

ในปัจจุบันเพจเฟสบุ๊คได้รับความนิยมอย่างมาก จัดได้ว่าเป็นแหล่งชุมชนบนเฟสบุ๊คที่ให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงและติดตามได้อย่างง่ายดาย โดยการสร้างเพจเฟสบุ๊คทำได้เมื่อสมัครเป็นสมาชิกกับเฟสบุ๊คแล้ว (Facebook.com) ถึงแม้เพจเฟสบุ๊คจะให้คนที่เป็นสมาชิกสามารถสร้างเพจได้ทุกคน แต่การจะทำให้เพจนั้นมียอดคนติดตามและเข้ามาชมเพจจำนวนมาก ๆนั้นเป็นเรื่องยาก โดยผู้สร้างเพจต้องเอาใจใส่และสรรหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มานำเสนอให้กับลูกเพจ จึงจะได้ผลตอบรับที่ดีและมีการแชร์ไปยังกลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบเพจแนวนี้มากดไลท์และติดตามได้มากขึ้น นอกจากเพจเฟสบุ๊คจะเป็นแหล่งที่ใช้สำหรับนำเสนอข้อมูลข่าวสารแล้ว เพจเฟสบุ๊คยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ใช้สื่อสารกันระหว่างร้านค้ากับลูกค้าอีกด้วย ซึ่งมีเพจร้านค้าและบริษัทหลายแห่งสามารถปิดการขายผ่านเพจเฟสบุ๊ค จะเห็นได้ว่าการใช้สื่อ Social Network มาใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดในยุค 4.0 นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างง่ายดายและแข่งขันในตลาดออนไลน์ปัจจุบันได้ อย่างไรก็ตามในการสร้างเพจเฟสบุ๊คนั้นแนะนำว่าควรอ่านนโยบาย (Policy) ของเฟสบุ๊คให้ชัดเจน การสร้างเพจที่ขัดต่อข้อตกลงของเฟสบุ๊คก็มีสิทธิ์ถูกแบนหรือยกเลิกได้ทันที สามารถเข้าไปดูนโยบายได้ที่ Page Facebook Policy วิธีสร้าง Page Facebook แบบใหม่ล่าสุด 2019 1. ขั้นตอนแรกให้ล็อกอินเข้าระบบใน Facebook.com ให้เรียบร้อย (หากยังไม่เป็นสมาชิกให้ทำการสมัคร facebook ให้เรียบร้อยก่อน) 2. ให้คลิกที่เมนู “สร้าง” แล้วเลือก “เพจ” 3. ในหน้าจอสร้างเพจจะมีให้เลือกว่าเราจะสร้างเพจแบบใดระหว่าง “ธุรกิจหรือแบรนด์” หรือ “ชุมชนหรือบุคคลสาธารณะ” แน่นอนว่าหากเราเป็นร้านค้าหรือบริษัทต้องการทำในเชิงการตลาดก็เลือก “ธุรกิจหรือแบรนด์” แต่หากต้องการสร้างเพจเพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสารหรือเรื่องราวส่วนตัวก็เลือก “ชุมชนหรือบุคคลสาธารณะ” โดยในตัวอย่างนี้เราจะทดสอบสร้างเพจที่เป็นเกี่ยวการตลาดจึงเลือก “ธุรกิจหรือแบรนด์” 4….

เฟสบุ๊คได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ล่าสุดสำหรับคนที่ชอบอัพเดทสถานะ โดยตอนนี้สามารถโพสต์ข้อความในลักษณะของลิสต์รายการได้ มีสีพื้นหลังให้เลือก และ หัวข้อต่าง ๆที่ระบบมีมาให้ หรือ เราสามารถที่จะกำหนดหัวข้อเองก็ได้เช่นเดียวกัน การโพสต์แบบลิสต์รายการเหมาะสำหรับข้อความประกาศ การตั้งคำถาม หรือ การกำหนดเป้าหมายบางอย่างของเรา ที่อยากให้เพื่อน ๆในโลกโซเชียลทราบ ข้อความที่แสดงผลค่อนข้างเด่นและสะดุดตาง่าย ทำให้สิ่งที่เราสื่อออกไปมีความชัดเจน นับเป็นอีกลูกเล่นใหม่ที่ช่วยให้การโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊คมีสีสันมากขึ้น วิธีโพสต์ลิสต์รายการบนเฟสบุ๊ค 1. ให้คลิกที่ช่องโพสต์ข้อความ แล้วเลือกเมนู “รายการ” 2. จากนั้นจะมีลิสต์รายการที่ระบบมีมาให้เลือก เราก็เลือกมาสัก 1 รายการที่จะโพสต์ หรือ จะเลือกแบบกำหนดเองก็ได้ตามที่สะดวก 3. ในหน้าโพสต์ของเราก็จะมีกราฟฟิกสีพื้นหลังและหัวข้อที่เลือกแสดงขึ้น เราก็สามารถพิมพ์รายการเพิ่มเข้าไป (โดยคลิกปุ่ม “+ เพิ่มอีกรายการหนึ่ง”) เมื่อกรอกข้อมูลที่ต้องการเสร็จแล้ว คลิกปุ่ม “โพสต์” 4. จะเห็นว่าโพสต์รายการที่แสดงออกมามีความเด่นชัดกว่าการโพสต์แบบปกติ นอกจากทางเฟสบุ๊คจะเพิ่มการโพสต์แบบรายการแล้ว ยังมีการโพสต์แบบอื่น ๆอีกมากมาย อาทิ เช่น การโพสต์แบบโพลสอบถาม การโพสต์แบบตอบคำถาม การโพสต์แบบขอคำแนะนำ ซึ่งในแต่ละแบบขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน จะเห็นว่าเฟสบุ๊ครูปแบบใหม่เน้นตอบสนองผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะคุณสมบัติที่ช่วยสร้างสีสันในการโพสต์ ทำให้เฟสบุ๊คยังคงเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมลำดับต้น ๆของคนไทยในทุกวงการเลยก็ว่าได้

ทุกวันนี้เราสามารถกล่าวได้ว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กได้กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คอยขับเคลื่อนสังคมไทยและสังคมโลกให้สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างง่ายดาย ดังในกรณีข่าวที่มีเด็กนักกีฬาจังหวัดเชียงรายเข้าไปติดอยู่ในถ้ำจำนวน 13 คน โดยที่เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 10 วัน กว่าจะค้นพบเด็กและอีก 1-2 อาทิตย์ในการลำเลียงเด็กออกจากถ้ำซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้ข่าวนี้กลายเป็นข่าวดังที่สื่อทุกสำนักทั้งในและต่างประเทศติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งเครื่องมือที่คนทั่วโลกใช้ติดตามและสื่อสารกันอยู่นั้น ก็คือ Facebook, Twitter ที่มีทั้งเพจข่าว และ เฟสบุ๊คส่วนตัวของคนในพื้นที่คอยอัพเดทสถานการณ์และไลฟ์สดให้คนทั่วทุกมุมโลกได้ติดตามกันนาทีต่อนาที คนที่อยู่ทางบ้านแทบจะไม่พลาดในทุก ๆรายละเอียดของการปฏิบัติภารกิจกู้ชีพในครั้งนี้ ในเคสนี้เราจะเห็นได้ว่าเมื่อข้อมูลบน Facebook มีจำนวนมาก ในช่วงที่ข้อมูลเหล่านี้ถูกโพสต์อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เรายังไม่สะดวกที่จะอ่าน หรือติดตาม เราสามารถที่จะใช้ฟีเจอร์ใหม่นี้ทำการบันทึกรายการเหล่านั้นลงในคอลเลกชั่นบน Facebook Saved ได้ทันที เพื่อเอาไว้กลับมาอ่านอีกครั้งภายหลังในช่วงที่มีเวลาว่างนั่นเอง วิธีบันทึกข้อมูลโพสต์ หรือ บทความต่าง ๆบนเฟสบุ๊คเก็บไว้ในคอลเลกชั่น 1. เข้าไปที่เมนู “บันทึกไว้” บนเฟสบุ๊ค 2. คลิกปุ่ม “คอลเลกชั่นใหม่” เพื่อสร้างหมวดหมู่สำหรับบันทึกรายการ 3. หลังจากที่เราสร้างคอลเลกชั่นเสร็จแล้ว ทีนี้เวลาเราเอาข้อมูลโพสต์ต่าง ๆในเฟสบุ๊คไปเก็บไว้ลงในคอลเลกชั่นทำได้โดยไปที่เพจข่าวที่เราติดตามอยู่ คลิกเมนู 3 ขีด แล้วเลือก “บันทึกลิงก์/โพสต์/วิดีโอ” 4. จากนั้นไปที่เมนู “บันทึกไว้” อีกครั้ง…

ตั้งแต่ Facebook Live เปิดตัวมารวมระยะเวลาก็ประมาณ 2 ปีได้ แต่กลับมีส่วนสำคัญในเรื่องราวต่าง ๆมากมายบนโลกใบนี้ มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีซึ่งก็อยู่ที่คนใช้ว่าจะนำไปใช้ในทางที่ถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามทางเฟสบุ๊คก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาให้ Facebook Live เพียงเท่านี้ ล่าสุดนั้นมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาให้สามารถจำกัดผู้เข้าชมไลฟ์สดได้ด้วย สิ่งนั้นก็คือ การจำกัดผู้เข้าถึง Facebook Live และ จำกัดตำแหน่งพื้นที่ของผู้ที่ใช้งานเฟสบุ๊คในขณะนั้นได้ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเฟสบุ๊คถึงทำได้ เพราะข้อมูลเหล่านี้เกิดจากที่เรากรอกข้อมูลสมัครเฟสบุ๊คไว้นั่นเอง ส่วนตำแหน่งที่อยู่นั้น Facebook สามารถที่จะ Detect ที่อยู่ของเราได้แบบ Real Time มาตั้งแต่ฟีเจอร์ที่ค้นหาเพื่อนที่อยู่ใกล้ ๆแล้วครับ แล้วฟีเจอร์นี้มีข้อดีอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าการนำอายุมาใช้ในการจำกัดการเข้าถึงนั้นทำให้เราสามารถที่คัดแยกในเรื่องของความคิด ความสนใจของกลุ่มคนที่เราต้องการนำเสนอเรื่องราวผ่าน Facebook Live ได้นั่นเอง อย่างเช่น ถ้าเรา Live เกี่ยวกับการ์ตูนน่ารัก ๆ ซึ่งก็จะเป็นกลุ่มเด็กไม่เกิน 12 ปี หรือ Live ที่ต่างประเทศแต่กำหนดให้คนเข้าถึงไลฟ์สดได้เฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งก็นับว่าเป็นประโยชน์ไม่น้อยที่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ตามพื้นที่ที่ต้องการได้ด้วย วิธีการจำกัดอายุ และ พื้นที่การเข้าถึง Facebook Live…

Facebook อาจจะเป็นหนึ่งโซเชียลมีเดียที่สามารถบอกพฤติกรรมของผู้ใช้งานให้คนอื่นทราบได้ เนื่องจากข้อมูลของผู้ใช้บางคนไม่ได้มีการกำหนดค่าความเป็นส่วนตัวที่ให้เห็นเฉพาะเพื่อน หรือ เฉพาะตัวเอง เมื่อข้อมูลกลายเป็นสาธารณะทำให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาดูข้อมูลของผู้ใช้ได้ทั้งหมด และทราบว่าเขาทำกำลังกิจกรรมกรรมอะไรอยู่ ชอบทำอะไร และอื่น ๆมากมาย ถ้าหากผู้ใช้ Facebook มองว่าข้อมูลส่วนตัวของตัวเองไม่ใช่ความลับและต้องการแชร์ให้คนทั่วไปรับรู้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทุกวันนี้มักจะมีการโจมตีกันโดยใช้สื่ออย่าง Facebook เนื่องจากมีคนใช้จำนวนมาก และเกือบทุกคนจะมีบัญชีอยู่แล้ว สามารถแชร์เรื่องราวได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ฉะนั้นการเปิดเผยข้อมูลบน Facebook ให้เป็นสาธารณะก็อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน บทความนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการป้องกันข้อมูลในส่วนของการกด Like Facebook โดยไม่ให้บุคคลทั่วไปมองเห็นและรู้ว่าเราได้ Like เพจอะไรไปบ้าง ซึ่งอาจจะแสดงให้เห็นถึงตัวตนของเราว่ากำลังสนใจในสิ่งนั้นอยู่ เช่น การติดตามเพจต้องห้ามต่าง ๆ เป็นต้น วิธีการปิดไม่ให้เห็น Like แบบสาธารณะบน Facebook 1. เข้าไปที่หน้า Profile ของ Facebook คลิกเมนู “เพิ่มเติม” แล้วเลือก “ถูกใจ” 2. คลิกที่ไอคอน “แก้ไข” แล้วเลือก “แก้ไขความเป็นส่วนตัวของการกดถูกใจของคุณ” 3. จากนั้น Facebook จะแสดงหน้าจอหมวดทุกหมวดที่มีอยู่ให้เราตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในหมวดที่ต้องการ โดยมีให้เลือกแบบ…